ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565

EP9-Police station

  หลังจากที่เนมิซิสจู่โจมขบวนรถไฟ จนทำให้ทั้งขบวนตกราง ภาพก็จะตัดมาที่คาลอสและไทเรล ที่ได้รับมอบหมายให้ไปตามหาตัวดร.บาร์ด ผู้คิดค้นยาต้าน Virus-T ใน Chapter นี้ เราจะได้เล่นเป็นตัวละครคาลอส ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงสถานีตำรวจในเมืองแรคคูน ซิตี้ (ที่เดียวกับในเนื้อเรื่องภาค 2 แต่จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาค 2 เพียงเล็กน้อย) คาลอสจะคุยกับไทเรลว่า ในตอนนี้รถไฟน่าจะห่างออกไปจากตัวเมืองแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้รถไฟตกรางและตายเกือบทั้งขบวน (ไทเรลจะแซวคาลอสเล็กน้อย เรื่องที่เป็นห่วงจิล) เมื่อเราสามารถบังคับตัวละครได้แล้ว อาวุธที่อยู่ในตัวคาลอสจะมีปืนกล (Assault Rifle) และปืนพกอีก 1 กระบอก ซึ่งเป้าหมายที่ขึ้นมาตอนนี้ก็คือการตามหาตัว ดร.บาร์ด และจุดเริ่มต้นที่คาลอสอยู่ จะเป็นบริเวณสวน ที่ติดกับด้านหน้าของสถานีตำรวจ (ที่ตอนนี้กลายเป็นสุสานฝังศพคนตายไปแล้ว) เดินไปตามาทงเล็กน้อย แล้วเราจะได้เห็นเหตุการณ์ ในตอนที่มาวิน (ตำรวจที่เจอในภาค 2) จะกำลังเดินหนีแบรด (เพื่อนของจิลที่อยู่หน่วย S.T.A.R.S.) ที่ตอนนี้กลายเป็นซอมบี้ แต่สุดท้ายมาวินจะพลาดท่า โดนแบรดกัด แล้วรีบหนีเข้าไปในสถานีตำรวจ

  เมื่อเราบังคับคาลอสได้แล้ว ให้เราจัดการแบรดให้ได้ เมื่อกำจัดได้แล้ว ไทเรลที่รับหน้าที่ไปเปิดประตู ก็จะสามารถเปิดประตูเสร็จพอดี ให้เราเดินไปสำรวจที่ศพของแบรด แล้วเราจะได้ บัตรประจำตัวของแบรด ซึ่งจะสามารถเปิดกล่องพิเศษที่อยู่ในสถานีตำตรวจได้ เมื่อเก็บบัตรประจำตัวของแบรดได้แล้ว ให้เราเราเดินกลับมาทางเดิม โดยจะมีทางเดินลงไปห้องด้านล่าง (ห้องที่ลีออนจะเข้าไปเปลี่ยนชุด) ซึ่งภายในห้องนี้ จะมีกิมมิคเล็กๆน้อยๆก็คือ จะมีโปสเตอร์โปรโมทหน่วย S.T.A.R.S. ที่มีแบรดเป็นนายแบบ เมื่อเรากดสำรวจแล้ว คาลอสจะขอโทษแบรด โดยพูดว่า “ขอโทษที…พ่อนายแบบโปสเตอร์” และที่ตู้ล็อคเกอร์ด้านหลัง จะมีชุดที่ลีออนจะเอาไว้เปลี่ยน และที่สำคัญอีกอย่างก็คือเอกสาร อีเมล (Email Outbox) ที่เนื้อหาจะบอกเราเกี่ยวกับ ลูซี่ เยน ผู้ส่งอีเมลไปขอความช่วยเหลือ ในขณะที่เกิดเหตุการระบาดของซอมบี้ โดยผู้ส่ง ได้ขู่จะเผยหลักฐานต่างๆ ที่ทางอัมเบลล่าได้จ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ของแรคคูนซิตี้ (ทั้งผู้ว่าและผบ.ตร.) เมื่อออกจากห้องนี้แล้ว ให้เราเดินขึ้นบันไดอีกฝั่ง (ออกจากห้องแล้วเดินไปทางขวามือ) จะมีของให้เราเก็บ และมีตุ๊กตาส่ายหัวให้เรายิงด้วย

  จากนั้นเดินกลับมาที่หน้าสถานีตำรวจ (ตรงจุดที่เจอแบรด) ให้เราเดินเข้าประตูไปในสถานี คาลอสจะถามไทเรลถึงมาวินว่าหายไปไหนแล้ว แต่ไทเรลจะบอกว่าไม่รู้ และกำลังยุ่ง เพราะจะต้องพยายามติดต่อไปหาดร.บาร์ด คาลอสจะบอกว่าจากข้อมูลที่ได้ ดร.บาร์ดน่าจะอยู่ที่ห้องของหน่วย S.T.A.R.S. ยังไงก็รีบหาตัวบาร์ดจะได้รีบไปจับตัว (ไทเรลจะตกใจเล็กน้อย เพราะคำสั่งที่ได้มาคือการหาดร.บาร์ด เพราะต้องการช่วยเหลือ) สักพักไทเรลจะเรียกคาลอสมาที่เครื่องคอม เพราะหาห้องของหน่วย S.T.A.R.S. เจอแล้ว ซึ่งคาลอสและไทเรลก็จะคุยกันถึงเรื่องของดร.บาร์ด เพราะเนื่องจากเค้ารู้เรื่องมากเกินไป เลยเปลี่ยนจากตามหาเพื่อช่วยเหลือ กลายเป็น ตามหาแล้วจับกุมแทน คาลอสจะให้ไทเรลหาข้อมูลที่เหลือให้มากที่สุด ส่วนตัวคาลอสจะลุยไปจับตัวดร.บาร์ดเองคนเดียว ให้เราเดินเข้าประตูที่ไทเรลพึ่งเปิดให้ (ประตูห้อง Reception) ที่ด้านในจะมีกล่องและเกสารวางอยู่บนเก้าอี้ ซึ่งเอกสาร (ID Card Security Protocols) จะบอกกับเราว่า กล่องชนิดพิเศษจะเปิดได้ โดยใช้บัตรเจ้าหน้าที่เท่านั้น (ที่เราเก็บของแบรดมาได้ก่อนหน้านี้) เดินต่อเข้าไปด้านใน จะมีฉากที่ตำรวจถูกบางอย่าง (ลิคเกอร์) ฆ่าตาย **ศพตำรวจที่อยู่ในภาค 2 นั่นเอง** เดินเข้าไปจนสุดทาง ซึ่งระหว่างทางจะมีซอมบี้บุกออกมาเป็นระยะๆ จนมาถึงห้องวางแผน (Operations Room) ในห้องนี้จะมีระเบิดแฟลชให้เราเก็บ (อยู่บนโต๊ะกลางห้อง) เพื่อเอาไว้ใช้เวลาที่เราเจอกับลิคเกอร์ เก็บแล้วออกประตูมาอีกด้าน คาลอสจะติดต่อกลับไปหาไทเรลว่ามีตัวแปลกๆอยู่ในสถานีตำรวจแห่งนี้ ซึ่งไทเรลก็จะอาสาดูจากกล้องวงจรปิดให้

  เมื่อออกจากห้องแล้ว ให้เราเตรียมตัวให้ดี เพราะจะมีซอมบี้ฝูงใหญ่ที่จะเข้ามาจู่โจมเรา เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ให้เราเดินไปเก็บของที่ด้านซ้ายมือก่อน จากนั้นเดินเข้าไปที่ห้อง West Office หรือห้องทำงานของลีออนนั่นเอง ที่ด้านในจะมีกล่องพิเศษให้เราเก็บ จะได้ที่แต่งปืน Assault Rifle – Scope มา เดินต่อเข้าไปในห้องทำงานห้องเล็ก จะมีตู้เซพให้เราเปิดเหมือนในภาค 2 ซึ่งเป็นรหัสเดียวกัน (แถมของที่อยู่ด้านในเป็นกระเป๋าเพิ่มช่องเก็บของเหมือนกันด้วย) ให้เราใส่รหัส ซ้าย 9 , ขวา 15 , ซ้าย7 จากนั้นเดินสำรวจเพื่อเก็บของในห้อง West Office ให้ทั่ว เราจะเจอเอกสารบันทึกการจับกุม (Sept. 20 Arrest Report) อยู่บนโต๊ะทำงาน โดยเนื้อหาจะบอกเราถึงการจับกุมตัวชายที่ทำระเบิด และพูดจาแปลก (ซึ่งจริงประโยคที่ชายคนนี้พูดก็คือบริษัทอัมเบลล่าที่จะสร้างซอมบี้ ให้มาทำร้ายประชาชนในเมือง) โดยทางตำรวจสรุปว่าชายคนนี้จิตไม่ปกติ และได้ทำการยึดของกลาง (ระเบิด) ซึ่งถ่านจะถูกเก็บแยกเอาไว้ในห้องเก็บอาวุธ (Safety Deposit) หรือห้องที่เป็นตู้ล็อคเกอร์เก็บอาวุธนั่นเอง เดินออกจาก West Office ซึ่งห้องตรงข้ามจะเป็นห้อง Safety Deposit ที่เราจะต้องเข้าไปเอาถ่าน แต่ในตอนนี้ยังเข้าไม่ได้ ให้เราเดินเข้าไปตามทาง จนถึงบันได ซึ่งจะมีห้องเซพอยู่ข้างบันได (ห้องล้างรูป) ที่ด้านในจะมีของให้เก็บ และมีเอกสารที่จะบอกรหัสตู้เซพ ที่เราพึ่งเปิดไปเมื่อสักครู่นี้ด้วย

  ออกจากห้องเซพ แล้วขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 ไทเรลจะติดต่อมาเพื่อบอกว่าห้องของหน่วย S.T.A.R.S. อยู่ด้านหน้าแล้ว ให้เราเดินเข้าไปด้านใน (ผ่านห้องน้ำไปก่อน) จนไปเจอจุดที่มีคนเอาของมาวางกั้นทางเอาไว้ (คาลอสจะสบถออกมาเล็กน้อย) จากนั้นเดินกลับมาเข้าห้องอาบน้ำ จะมีจดหมายวางอยู่ที่ด้านใน (Note to a Friend) ซึ่งจะบอกเราว่า คนเขียนจดหมายนี้ ได้เขียนบอกกับเพื่อนของเค้า ว่าตัวเค้าได้เข้าไปหลบอยู่ในตู้ล็อคเกอร์ (เราจะได้เจอในภาค 2 ตอนเปิดล็อคเกอร์ที่อยู่ในห้องอาบน้ำนี้) และเนื้อหาหลักๆ ที่จดหมายนี้บอกก็คือ คนเขียนได้เอาระเบิดไปติดตั้งที่ผนังแล้ว แต่ไม่มีถ่านไฟฉาย ซึ่งอยู่ในห้อง Safety Deposit คนเขียนที่ตั้งใจจะไปเอากุญแจที่ชั้น 3 กลับโดนซอมบี้กัดก่อน เลยหนีเข้าไปอยู่ในล็อคเกอร์นั่นเอง และภายในห้องอาบน้ำจะมีตู้ล็อคเกอร์ที่จะต้องใส่รหัสเพื่อเปิด โดยรหัสก็คือ “CAP” ส่วนของที่อยู่ด้านในจะเป็น ระเบิดแฟลช อีกลูก ที่ด้านในสุดของห้องอาบน้ำ จะมีระเบิดติดเอาไว้ที่ผนัง แต่ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้ จะต้องไปหาถ่านมาใส่เสียก่อน

  ออกจากห้องอาบน้ำ ขึ้นไปชั้นบน จะมีกุญแจวางไว้บนกล่อง (ตามรูปด้านบน) จากนั้นเดินเข้าไปด้านใน จะมีตู้ล็อคเกอร์ให้เราใส่รหัสอีกตู้ ซึ่งก็คือ “DCM” เดินกลับไปที่ห้อง Safety Deposit เมื่อใกล้ถึงแล้ว ให้เราค่อยๆเดิน เพราะจะมีลิคเกอร์กระโดดลงมาดักเราที่หน้าห้อง จัดการมันให้ได้ แล้วใช้กุญแจไขเข้าห้อง Safety Deposit ไป ที่ด้านในให้เราจัดการกับซอมบี้ภายในห้องให้หมดก่อน แล้วค่อยเดินมาใส่รหัส ซึ่งตู้ที่มีถ่านไฟฉาย คือ 104 แต่เรายังสามารถใส่รหัสอื่น เพื่อเอาของที่อยู่ในตู้อื่นๆได้อีก และที่ด้านในสุดของห้องนี้ จะมีตุ๊กตาส่ายหัววางอยู่ที่ชั้นด้านในด้วย และนอกจากนั้น ยังมีรูปถ่ายที่แปะอยู่ที่กระดาน ตรงประตูทางเข้า ซึ่งเป็นรหัสตู้ล็อคเกอร์ (DCM) นั่นเอง

  ออกจากห้อง Safety Deposit แล้วกลับไปตั้งหลักที่ห้องเซพใต้บันไดก่อน เพราะหลังจากที่เราวางระเบิดเสร็จ จะมีฝูงซอมบี้บุกเข้ามาจู่โจมเรามากมาย ให้เราเตรียมอาวุธให้พร้อม จากนั้นเดินกลับไปที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 ให้เราไปสำรวจที่ระเบิด เราจะดึงตัวจุดระเบิดออกมาได้ ให้เอาถ่านไปรวมกับตัวจุดระเบิด (ไทเรลจะติดต่อกลับมาว่าจะไปรอเราอยู่ที่ห้องของหน่วย S.T.A.R.S. เลย) จากนั้นให้เราเอาตัวจุดระเบิดไปวางไว้ที่เดิม เมื่อผนังถูกระเบิดแล้ว จะมีซอมบี้เดินออกมาจู่โจมเราฝูงนึงให้เราจัดการให้หมด (มีอยู่ประมาณ 7-8 ตัว) ** หากคนที่เล่นภาค 2 มาก่อน คงจะจำตรงจุดนี้ได้ ว่าผนังในห้องอาบน้ำเป็นรูก็เพราะคาลอสนี้เอง ** เมื่อเราจัดการฝูงซอมบี้หมดแล้ว ให้เราออกจากห้องอาบน้ำด้วยประตูอีกฝั่ง เราจะเจอลิคเกอร์ออกมาจู่โจมเราอีกตัว จัดการให้ได้ แล้วเดินไปตามทาง ก็จะเจอกับห้องของหน่วย S.T.A.R.S.

  เมื่อเข้าไปด้านใน ปรากฎว่าจะไม่เจอกับดร.บาร์ดแล้ว แต่คาลอสจะเห็นข้อความให้ตอบรับการติดต่อขึ้นมาบนหน้าจอคอมพอดี ซึ่งคาลอสก็จะได้คุยกับดร.บาส ทำให้รู้ว่าในตอนนี้ ดร.บาร์ด อยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งดร.บาร์ธ กำลังหนีจากพวกกลุ่มของอัมเบลล่าอยู่ (ดร.จะขอความช่วยเหลือจากหน่วย S.T.A.R.S. แต่คาลอสบอกว่าตายหมดแล้ว) เพราะกลุ่มคนของอัมเบลล่าตามฆ่านักวิจัยจนไม่เหลือใครแล้ว และในตอนนี้ดร.บาร์ดก็เป็นคนเดียวที่สามารถผลิตวัคซีนรักษา T-Virus ได้ เมื่อคาลอสได้รู้ความจริงจึงบอกกับไทเรลว่าจะส่งตัวดร.บาร์ดให้กับอัมเบลล่าไม่ได้ (เพราะจะต้องถูกฆ่าแน่ๆ) แต่ไทเรลจะบอกว่าพวกเราไม่มีสิทธิตัดสินใจอยู่แล้ว และไทเรลจะทำการแกะที่อยู่ของดร.บาร์ด ซึ่งจะบอกกับคาลอสว่าขอเวลาสักพัก ให้คาลอสลองเดินสำรวจแถวนี้ก่อน เผื่อมีอะไรใช้ประโยชน์ได้ ให้เราเดินเก็บของที่อยู่ในห้องนี้ให้หมด (ด้านในจะมีกล่องพิเศษให้เราเปิด) และในห้องของเวสเกอร์ (ห้องทำงานเล็ก) จะมีรูปถ่ายของหน่วย S.T.A.R.S. ซึ่งคาลอสจะเห็นจิลอยู่ในรูปนั้นด้วย และมีเอกสารรายงานอุบัติเหตุที่คฤหาสน์ (Report on the Mansion Incident) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาค 1 โดยหน่วย S.T.A.R.S. ที่ถูกส่งไป เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และหลักฐานทุกอย่างก็ถูกทำลายไปพร้อมกับคฤหาสน์หลังนั้นด้วย เมื่อเราสำรวจในห้องของหน่วย S.T.A.R.S. เรียบร้อยแล้ว ให้เราเดินออกจากห้อง ซึ่งจิลจะติดต่อมาหาคาลอส และบอกเกี่ยวกับเรื่องรถไฟที่ตกราง จากนั้นจิลจะขาดการติดต่อจากคาลอสไป ส่วนคาลอสที่รู้ว่าจิลตกอยู่ในอันตราย จะบอกกับไทเรลว่าจะล่วงหน้าไปก่อน ให้ไทเรลตามไปสมทบทีหลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น