ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565

EP11-Hospital(Carlos)

  หลังจากที่จิลเสียท่าเนมิซิสจนถูกฝังไวรัสเข้าร่างกาย ผ่านไปประมาณครึ่งวัน คาลอสได้มาพบตัวจิลที่นอนสลบอยู่ หลังจากที่สังเกตอาการก็จะรู้ว่าตอนนี้จิลติดเชื้อ คาลอสจะติดต่อกลับไปหาไทเรลว่าจะพาตัวจิลไปหาหมอบาร์ด เผื่อจะสามารถช่วยได้ ให้ไปเจอกันที่โรงพยาบาลเลย ซึ่งไทเรลก็จะตกลงตามนั้น แล้วฉากจะตัดไปที่คาลอสที่แบกจิลไปถึงโรงพยาบาลสเปนเซอร์ (ในเวลา 3 ทุ่ม 20 นาที) ซึ่งเป้าหมายของคาลอสในตอนนี้ก็คือ การไปหาวัคซีนเพื่อมาช่วยรักษาจิล หลังจากที่เราสามารถบังคับตัวละครได้แล้ว เราจะได้กลับมาเล่นเป็นคาลอสอีกครั้ง ซึ่งห้องที่จิลนอนรออยู่นี้ จะเป็นห้องเซพ ซึ่งให้เราเตรียมตัวให้พร้อม (มีของให้เก็บ)

  จากนั้นออกมาจากห้อง คาลอสจะติดต่อไปถามไทเรล ว่าจะหาดร.บาร์ดได้ที่ไหน ไทเรลจะบอกว่าตอนนี้น่าจะอยู่ที่ห้องทดลองด้านใน คาลอสจะขอล่วงหน้าไปหาดร.บาร์ดก่อน (ก่อนที่ไทเรลจะมาถึงที่นี่) เดินเข้าประตูที่อยู่ห้องถัดไป (ก่อนเข้าประตู แนะนำให้เดินสำรวจเพื่อเก็บของให้หมดก่อน) เราจะมาถึงส่วน Reception ซึ่งจะมีซอมบี้รอต้อนรับเราเป็นฝูงแรกในห้องนี้ จัดการซอมบี้ให้หมด เดินออกประตูถัดไป จากนั้นเดินไปตามทาง (เราจะเจอกล่องอยู่ด้านนอกกระจก แต่ตอนนี้จะยังเก็บไม่ได้) จนมาถึงประตูถัดไป ซึ่งจะมีตุ๊กตาส่ายหัววางอยู่บนเตียงหน้าประตู เดินเข้าไปในห้อง จะเป็นส่วน Lab Reception (แล้วจะมีเสียงประกาศจากระบบ ว่าที่นี่คือพื้นที่ในส่วนของดร.บาร์ด หากมีธุระอะไรให้แจ้งได้ทางเครื่องตอบรับ) ให้เราเก็บ เครื่องเล่นเทป (Tape Player) และใกล้ๆก็จะมีเอกสารบันทึกของพยาบาล (Nurse’s Journal: Sept. 25) โดยเนื้อหาจะบอกกับเราว่า มีคนไข้อาการผิดปกติเข้ามารับการรักษามากมาย ซึ่งทางโรงพยาบาล ลองให้ยาระงับประสาทก็ไม่สามารถช่วยได้ สุดท้ายก็ได้เอาไปรวมไว้ที่ตึกพิเศษ ซึ่งที่น่าสงสัยก็คือ เมื่อคนไข้เสียชีวิตมากมาย จนห้องดับจิตไม่สามารถรับศพไว้ได้แล้ว มีเพื่อนพยาบาลอีกคน แอบเห็นคนกลุ่มหนึ่งแอบเข็นศพไปไว้ในห้องลับกลางดึก โดยที่ไม่ให้ใครรู้ ให้เราไปสำรวจประตูที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งจะเป็นห้องทดลองของดร.บาร์ด ซึ่งในตอนนี้เราจะยังไม่สามารถเปิดประตูนี้ได้ ส่วนคาลอสจะตะโกนเรียกดร.บาร์ด แต่จะไม่มีใครตอบกลับมา (ประตูจะเปิดไม่ได้เพราะไม่ใช่เสียงของดร.บาร์ด)

  ให้เราเดินเข้าไปด้านในต่อ ผ่านประตูเข้ามาจะเป็นส่วนของหน้าห้องผ่าตัด ซึ่งจะมีซอมบี้รอเราอีกฝูง (จะมีซอมบี้ที่อยู่ในตู้กระจก ในตอนนี้มันจะยังออกมาไม่ได้ และกระจกเป็นแบบกันกระสุน) ให้เราจัดการซอมบี้ให้หมด แล้วเข้าประตูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับกระจก โดยเราจะออกไปได้เพียงแค่ประตูเดียว (ประตูห้องผ่าตัดจะยังเข้าไม่ได้ เพราะจะต้องใช้คีย์การ์ด) ออกประตูมาแล้วให้เดินไปทางขวา จะเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน ซึ่งทางด้านซ้ายจะมีประตูแต่เปิดไม่ได้ เพราะล็อคจากด้านใน ขึ้นมาชั้นบนแล้ว ทางจะถูกบล็อคหมด จะมีเพียงประตูทางออกไปดาดฟ้าที่อยู่ฝั่งซ้ายมือเท่านั้นที่จะออกไปได้ (มีซอมบี้นอนรอเราอยู่ด้วย) และหลังประตู ด้านที่เราออกไปดาดฟ้า จะมีตุ๊กตาส่ายหัววางอยู่ด้วย เข้าประตูอีกด้าน (บนดาดฟ้า) เราจะกลับเข้ามายังตึกอีกครั้ง ให้เราเดินไปทางซ้ายมือก่อน จะมีแผนที่ให้เราเก็บ โดยแผนที่จะถูกแปะเอาไว้ที่บอร์ด เดินเข้าประตูที่อยู่ใกล้ๆ (Records Room) ที่ด้านในจะเป็นห้องเซพ และมีเอกสารบันทึกของพยาบาลให้เราอ่าน (Nurse’s Journal: Sept. 27) ซึ่งจะบอกถึงสถานะการณ์ที่โรงพยาบาลรับผู้ป่วยอาการแปลกๆเข้ามารักษา โดยจะมีอาการคลุ้มคลั่ง และหิวตลอดเวลา ให้ยาไปแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น แถมอยู่ดีๆ ผู้ป่วยที่อยู่ในตึกผู้ป่วยนอก เกิดอาการคลุ้มคลั่งจนเกิดความโกลาหลอีก ออกจากห้องเซพ ตรงไปตามทาง จะมีประตูด้านซ้ายมือ เข้าไปด้านในจะเป็นห้อง Staff Room ที่ด้านในจะมีของให้เราเก็บ และมีเอกสารอีก 2 ฉบับ คือ บันทึกของพยาบาล (Nurse’s Journal: Sept. 29) ซึ่งจะบอกถึงสถานการณ์ที่พวกซอมบี้ทำการยึดโรงพยาบาลเอาไว้แล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พากันหนีเข้ามาหลบในห้องนี้ จนถึงตอนที่มีเฮลิคอปเตอร์บินผ่าน แต่สุดท้ายก็ไร้การช่วยเหลือ จนในที่สุดผู้รอดชีวิตก็ได้ถูกอะไรบางอย่างเข้ามาจู่โจม (จนบันทึกหน้าสุดท้ายยังเขียนไม่จบ) และ เอกสารที่แปะอยู่หน้าประตูด้านใน (Memos from Administration) – จะเป็นประกาศจากแอดมิน โดยจะมีเนื้อหา 2 เรื่องคือ พนักงานทุกคนจะต้องเก็บ ID Cards ไว้ในล็อคเกอร์ของตัวเอง ก่อนกลับบ้าน (ห้ามเอาออกนอกพื้นที่) และอีกเรื่องคือ ประกาศถึงกุญแจล็อคเกอร์ที่หายไป ซึ่งคนที่ทำหายแจ้งเบาะแสว่าหายบริเวณสวนหย่อม ออกจากห้องพักพนักงาน (Staff Room) แล้วเดินกลับมาตั้งหลักที่ประตู ที่เราเข้ามาจากดาดฟ้า จะมีทางแยกให้เราเดินไปอีกด้าน เราจะเจอประตูเข้าห้อง Nurses’ Station ซึ่งข้างในจะมีของให้เก็บ แต่ในตอนนี้ให้เราเดินผ่านไปก่อน เพราะเราจะต้องเดินกลับมาอีกหลังจากที่ได้ ID Cards แล้ว (แต่ถ้าใครที่เหลือของในตัวน้อยจะเข้าไปเก็บของด้านในก่อนก็ได้) จากนั้นเดินไปตามทาง จะเจอจุดที่เราจะสามารถกระโดดจากหน้าต่างลงไปด้านล่างได้

  เมื่อกระโดดลงมาแล้ว เราจะมาอยู่ในส่วนของสวนหย่อม เดินเข้าไปสำรวจในจุดตามรูปด้านบน เราจะได้ของแต่งปืนมา (Assault Rifle – Tactical Grip) หลังจากที่เก็บของแต่งปืนแล้ว ให้เรากระโดดมาอีกฝั่ง ซึ่งจะเจอกุญแจตู้ล็อคเกอร์ตกอยู่ที่พื้น (ตามรูปด้านบน) เก็บแล้วให้เราเดินออกจากสวนหย่อม เราจะเจอประตูที่สามารถปลดล็อคได้ ซึ่งจะเป็นประตูที่อยู่ใกล้ๆกับบันไดทางขึ้นพอดี ขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 อีกครั้ง โดยครั้งนี้ให้เรากลับไปที่ห้องพักพนักงาน เพื่อเอากุญแจที่เก็บได้ไปเปิดประตูห้องล็อคเกอร์ ที่ตู้ด้านในสุด เราจะเจอบัตรพนักงาน ซึ่งก็คือคีย์การ์ดที่จะใช้เปิดประตูนั่นเอง ก่อนเราจะออกจากห้องนี้ ให้เราเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อเรากำลังจะเปิดประตูออกจากห้อง คาลอสจะโดน Hunter Beta เข้ามาจู่โจมทันที วิธีการสู้คือ ให้เราโยนระเบิดแฟรชไปก่อน จะทำให้มันมองไม่เห็น จากนั้นก็ระดมยิงมันจนกว่ามันจะตาย ซึ่งสิ่งที่จะต้องระวังก็คือ มันสามารถกระโดดเข้ามาข่วนเรา โดยเราอาจจะตายได้เลยทีเดียว

  หลังจากที่ได้คีย์การ์ดมาแล้ว เป้าหมายต่อไปจะอยู่ที่ห้อง Nurses’ Station แต่ในนั้นเราจะได้เจอกับฮันเตอร์ถึง 2 ตัว แนะนำให้เราลงไปที่ชั้น 1 เพื่อเอาคีย์การ์ดไปเปิดที่ห้องผ่าตัดก่อน เพราะในนั้นจะมีกระสุนและระเบิดให้เราเก็บมากมาย และยังมีเอกสารที่จะบอกเราถึงรหัสเปิดตู้เซพในห้อง Nurses’ Station อีกด้วย กลับขึ้นมาที่ห้อง Nurses’ Station ที่ด้านในเราจะเจอตู้เซพ ซึ่งใส่รหัส ขวา 9 , ซ้าย 3 แล้วเราจะได้ของแต่งปืนมาใช้ (Safe / Assault Rifle – Dual Magazine) **ในห้องนี้จะมีซอมบี้ที่นอนอยู่ซึ่งมันจะลุกขึ้นมาจู่โจมเรา ถ้าเราเดินอยู่บริเวณนี้นาน และยังมีอีก 3-4 ตัว ด้านหลังประตู ที่มันจะสามารถพังประตูออกมาหาเราได้ (อยู่ในห้อง Sickroom) และในห้องนี้ก็ยังมีเอกสารให้เราเก็บ (Note about a Tape Recording) ซึ่งเนื้อหาจะบอกให้เรารู้ว่า มีพยาบาลได้แอบขโมยเทปเสียงของดร.บาร์ด (ที่เราตามหาอยู่) ไปเก็บไว้ในห้อง Treatment Room (ซึ่งจะต้องใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไป) ให้เราจัดการกับซอมบี้ให้หมด รวมไปถึงตัวที่อยู่ในห้อง Sickroom ด้วย จากนั้นให้เราเดินไปเก็บของที่อยู่ในห้อง Sickroom ให้หมด และยังมีตุ๊กตาส่ายหัวซึ่งจะถูกซ่อนไว้ในถังขยะ ภายในห้องนั้นด้วย

  จากนั้นออกจากห้อง Sickroom แล้วเดินไปอีกฝั่งของห้อง เราจะเจอประตูที่จะต้องใช้คีย์การ์ด ซึ่งจะพาเราไปยังห้อง Linen Room และ Treatment Room (โดยระหว่างทาง เราจะได้เห็นฮันเตอร์ 2 ตัว ที่กำลังกินศพอยู่ในห้อง Treatment Room ที่เรากำลังจะเข้าไปนั่นเอง) เข้าไปที่ห้อง Linen Room จัดการกับซอมบี้ให้หมด แล้วเดินไปปลดล็อคประตูก่อน (ประตูจะไปโผล่ตรงทางเดินชั้น 2 ที่เราเข้าไม่ได้ก่อนหน้านี้) จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม เข้าไปจัดการกับฮันเตอร์ 2 ตัวที่อยู่ในห้อง Treatment Room ให้ได้ ที่ด้านในสุด เราจะเจอกับเทปเสียงของดร.บาร์ด (Audiocasette Tape) ให้เราเอาผสมกับเครื่องเล่นเทปได้เลย จากนั้นเดินออกจากที่นี่ โดยเป้าหมายในตอนนี้คือห้องทดลองของดร.บาร์ด (ตรงจุดที่ต้องใช้เสียงผ่านเข้าไป) ให้เราออกจากห้อง Linen Room ตรงประตูที่พึ่งปลดล็อค แล้วกระโดดลงตรงหน้าต่างเลย ซึ่งในตอนที่เรากลับเข้าไปในบริเวณหน้าห้องผ่าตัดครั้งนี้ ซอมบี้ที่อยู่ในตู้กระจกจะพังกระจกออกมาได้พอดี จัดการให้หมด แล้วเดินออกประตูด้านขวามือ ซึ่งเราก็จะเดินกลับมาที่หน้าห้องทดลองของดร.บาร์ด ให้เราเอาเครื่องเล่นเทป ที่ใส่เทปเรียบร้อยแล้ว ไปใช้กับเครื่องตอบรับ ก็จะสามารถเปิดประตูเข้าไปด้านในได้ เข้าไปด้านใน เราจะเจอกับศพของดร.บาร์ดที่ถูกยิงอยู่บนเก้าอี้ในห้องทดลอง คาลอสจะรีบติดต่อหาไทเรล เพื่อบอกว่าบาร์ถูกใครบางคนยิง ไทเรลจะบอกให้คาลอสลองหาวัคซีน หรือข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมของดร.บาร์ด ให้เราอ่านเอกสารที่อยู่ใกล้ๆศพ (Banquet Invitation) ซึ่งจะเป็นบัตรเชิญไปงานเลี้ยง ที่กำลังจะมาถึง และที่ตอนท้ายของบัตรเชิญจะมีเขียนโน๊ตไว้เล็กน้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเส้นสายในเมืองแรคคูนซิตี้

  จากนั้นเดินสำรวจเพื่อเก็บของภายในห้องนี้ให้หมด แล้วไปสำรวจที่เครื่องคอมของบาร์ดที่โต๊ะด้านใน คาลอสจะเจออีเมล (Email from Nathaniel Bard) โดยเนื้อหาในอีเมล บาร์ดจะเขียนถึง เกรก (ซึ่งคาดว่าเป็นคนใหญ่คนโตในรัฐบาล ที่ไม่ใช่พวกของอัมเบลล่า) โดยบาร์ดมีข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งจะมอบวัคซีนให้กับเกรก เพื่อให้เกรกติดต่อคนของรัฐบาลมาช่วย ซึ่งจะต้องไม่ให้รู้ถึงพวกของอัมเบลล่าด้วย จากนั้นคาลอสจะตรวจคอมของบาร์ดต่อ ซึ่งจะเห็นข้อมูลเป็นวีดิโอที่บาร์ดถ่ายเอาไว้ (ก่อนที่คาลอสจะเข้ามาถึงเล็กน้อย) เนื้อหาในวีดิโอ บาร์ดจะเผยข้อมูลทั้งหมดว่าอัมเบลล่าเป็นคนคิดค้นไวรัสขึ้นมา ส่วนทีมของบาร์ดเป็นทีมที่คิดค้นวัคซีน ซึ่งตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว มีหลอดนึงอยู่ในห้องทำงาน ที่เหลือจะอยู่ชั้นใต้ดิน และตัวบาร์ดก็รู้ด้วยว่ากำลังถูกพวกของอัมเบลล่าตามล่าอยู่ เพราะอัมเบลล่าต้องการจะปิดบังข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งก็คือการกำจัดทุกคนที่รู้ และหลังจากนั้นบาร์ดก็ถูกใครบางคนบุกเข้ามายิงจนตายนั่นเอง เมื่อคาลอสดูข้อมูลของบาร์ดจบ ก็จะรู้ความจริงที่ว่า สิ่งที่จิลพูดในตอนแรกๆที่เจอกัน เกี่ยวกับสิ่งที่อัมเบลล่าทำเป็นความจริงทั้งหมด (ตอนแรกคาลอสจะไม่สนใจที่จิลบอกว่าต้นเหตุทั้งหมดมาจากอัมเบลล่า เพราะคาลอสคิดว่าจิลแค่เกลียดอัมเบลล่าเลยใส่ร้าย) หลังจากที่เราบังคับตัวละครได้แล้ว ประตูที่อยู่ข้างๆเครื่องคอมจะปลดล็อคอัตโนมัติ ให้เราเข้าไปด้านใน จะเจอกับวัคซีนสีม่วงเก็บแล้วออกมาด้านนอก

  เมื่อคาลอสได้วัคซีนมาแล้ว จะติดต่อกลับไปบอกไทเรล ว่าให้รีบมาเจอกันที่โรงพยาบาล จากนั้นให้เราออกจากห้องนี้ เราจะได้เจอกับฮันเตอร์ที่จะจู่โจมเข้ามา จัดการกับฮันเตอร์ให้ได้ แล้วเดินกลับไปที่ห้องที่จิลนอนอยู่ (Makeshift Sickroom) ให้เราใช้วัคซีนรักษาจิล แต่สุดท้ายจิลก็จะยังไม่ฟื้นมา เมื่อไทเรลเดินทางมาถึงที่โรงพยาบาล จะเปิดทีวีเพื่อให้คาลอสรู้ว่าทางการกำลังจะยิงมิสไซล์มาทำลายเมืองแรคคูนซิตี้ ในอีกประมาณ 1 วันแล้ว แต่ยังไม่ทันจะคุยกันเสร็จ ซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกกำลังพยายามจะบุกเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ คาลอสจะอาสาออกไปจัดการเอง ตรงนี้ให้เราเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะต้องออกไปจัดการกับพวกซอมบี้ที่จะบุกเข้ามาด้านใน เพื่อไม่ให้ซอมบี้บุกเข้ามาถึงห้องที่จิลและไทเรลอยู่ให้ได้

  เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ให้เราเดินออกจากห้องได้เลย แล้วภาพจะตัดเป็นคัทซีนในตอนที่คาลอสกำลังขนของไปวางกันประตูห้องที่ไทเรลและจิลอยู่ ส่วนไทเรลจะตะโกนบอกกับคาลอสว่า จะช่วยแฮคระบบของโรงพยาบาลเพื่อปิดแผงกั้นหน้าต่าง ซอมบี้จะได้เข้ามาได้น้อยลง เมื่อเราบังคับตัวละครได้แล้ว ให้เราพยายามยิงซอมบี้ให้หมด เพราะซอมบี้ที่เข้ามาในพื้นที่ได้ จะเดินเข้าไปพังของที่เรากั้นประตูเอาไว้ โดยซอมบี้จะบุกเข้ามาอยู่เรื่อย ในบริเวณจะมีของให้เราเก็บค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงเครื่องปั่นไฟ ที่เราสามารถยิงเพื่อช็อตพวกซอมบี้ได้ด้วย หลังจากที่ยิงไปสักพักไฟจะดับ ไทเรลจะบอกให้ช่วยไปเปิดเบรคเกอร์ที ซึ่งจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ฮันเตอร์พังประตูหลังเคาท์เตอร์ออกมา ให้เราจัดการกับฮันเตอร์ให้ได้ แล้วเดินเข้าไปในห้อง ที่ฮันเตอร์พังประตู ที่ด้านในจะมีเบรคเกอร์ที่เราจะต้องสับสวิตช์ขึ้น และนอกจากนี้ยังมีของให้เราเก็บอีกมากมาย รวมไปถึงกระเป๋าเพิ่มช่องอีกด้วย

  เมื่อไฟติดแล้ว ให้เรารีบออกมายิงซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกต่อ โดยรอบนี้ให้เราเดินสำรวจให้ทั่วบริเวณ เพราะจะมีตัวจุดระเบิดให้เราเก็บด้วย (สามารถเก็บได้ตั้งแต่แรก) ให้เราเก็บมาไว้กับตัวก่อน จากนั้นยิงต่อไปอีกสักพัก เราจะสังเกตว่าที่กั้นหน้าต่างจะเริ่มเลื่อนปิดลงมาเกือบหมดแล้ว โดยจะมีคัทซีนขั้น ในตอนที่ซอมบี้กลุ่มใหม่สามารถพังประตูหน้าเข้ามาได้แล้ว ก็ให้เราเอาระเบิดไปติดตั้งที่เสาตรงกลาง (ตามรูปด้านบน) จากนั้นกลับมายิงซอมบี้ต่อ โดยรอบนี้ให้เราพยายามป้องกันพวกซอมบี้ให้ได้ จนกว่าจะหมดเวลา (ประมาณ 30 วินาที) และหลังจากนั้น ระเบิดจะพังเสาให้หล่นลงมาทับทางเข้าจนซอมบี้ไม่สามารถบุกเข้ามาได้อีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น