เส้นทางสู่ The Light of Alfheim เป็นภารกิจหลักที่สำคัญมาก ซึ่งเป็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วยเอลฟ์และแสงสว่างอันเป็นหัวใจของที่นี่ แต่ก็เต็มไปด้วยความมืดและความขัดแย้งระหว่าง Light Elf และ Dark Elf
ส่วนที่ 1: การเดินทางสู่ Alfheim
หลังจากที่คุณและ Atreus ได้รับคำสั่งให้ไปที่ Alfheim คุณจะต้องเดินทางผ่าน Bifröst ซึ่งเป็นสะพานสายรุ้งที่เชื่อมระหว่างอาณาจักรต่างๆ เมื่อไปถึง Alfheim คุณจะพบว่าแสงสว่างอันเป็นที่มาของพลังของที่นี่ถูกบดบังด้วยความมืดและรากไม้ขนาดใหญ่ คุณจะต้องหาทางไปที่ Temple of Light ซึ่งเป็นวิหารที่เป็นแหล่งกำเนิดของแสงสว่างนั้น
ส่วนที่ 2: การทำลายรากไม้แห่งความมืด
เพื่อที่จะทำให้แสงกลับมา คุณจะต้องทำลายรากไม้ขนาดใหญ่ 3 จุดที่คอยขวางทางอยู่ รากไม้เหล่านี้จะถูกปกป้องโดย Dark Elf ซึ่งเป็นศัตรูหลักในอาณาจักรนี้ คุณจะต้องใช้ขวาน Leviathan Axe ของคุณเพื่อแก้ปริศนาและจัดการศัตรู
จุดที่ 1: อยู่บริเวณทางเข้าของวิหาร จะมีรากไม้ขนาดใหญ่ปิดกั้นทาง คุณจะต้องสำรวจพื้นที่และใช้ขวานปาไปที่ปมของรากไม้เพื่อทำลายมัน
จุดที่ 2: อยู่ภายในวิหาร จะมีรากไม้ที่หมุนได้อยู่ คุณจะต้องหาจังหวะที่ปมของรากไม้ทั้งสามปมเรียงกันและปาขวานไปที่ปมทั้งสามพร้อมกันเพื่อทำลายมัน
จุดที่ 3: จุดสุดท้ายจะอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของวิหาร รากไม้นี้จะถูกปกป้องโดยศัตรูจำนวนมาก จัดการศัตรูให้หมดแล้วจึงทำลายปมของรากไม้นั้น
ส่วนที่ 3: เผชิญหน้ากับ Light of Alfheim
หลังจากทำลายรากไม้ทั้ง 3 จุดแล้ว เส้นทางสู่ The Light of Alfheim จะเปิดออก เมื่อคุณเข้าไปด้านใน คุณจะพบกับความท้าทายที่สำคัญที่สุดของภารกิจนี้ นั่นคือการที่คุณจะต้อง แบกแสงสว่าง ที่มีรูปร่างเหมือนลูกกลมขนาดใหญ่ไว้บนหลัง ทำให้คุณไม่สามารถใช้ขวานได้
คำแนะนำ: ในช่วงนี้ Atreus จะมีบทบาทสำคัญมากในการช่วยคุณ คุณจะต้องสั่งให้เขาใช้ธนูยิงศัตรูที่เข้ามาโจมตีและบอกให้เขาดึงคันโยกเพื่อเปิดทาง
ส่วนที่ 4: การต่อสู้กับบอส: Svartáljǫfurr
เมื่อคุณไปถึงส่วนสุดท้ายของภารกิจ คุณจะต้องเผชิญหน้ากับ Svartáljǫfurr ซึ่งเป็นราชาแห่ง Dark Elf นี่คือการต่อสู้ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง
ท่าโจมตีของบอส: Svartáljǫfurr จะโจมตีด้วยการปาหอกแสงและพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องหลบหลีกและรอจังหวะที่เขาอ่อนแรง
ช่วงจังหวะการโจมตี: เมื่อบอสโจมตีเสร็จแล้ว เขาจะมีช่วงที่หยุดนิ่งชั่วขณะ คุณต้องใช้จังหวะนี้ในการโจมตีสวนกลับให้หนักที่สุด
ป้องกัน: การป้องกันและการหลบหลีกมีความสำคัญมากในการต่อสู้กับบอสตัวนี้
เมื่อคุณเอาชนะ Svartáljǫfurr ได้แล้ว คุณจะสามารถนำ Light of Alfheim กลับคืนมาได้ ทำให้ Alfheim กลับมามีแสงสว่างอีกครั้ง และภารกิจนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น