ผู้ติดตาม

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Chapter9

  ก่อนจะไปยังฐานทัพเวลาพาราเมเกีย พวกไลท์นิ่งจะชุมนุมกันอยู่บนยานเหาะลินด์บลัมของซิด ฟางกำลังร้อนใจอยากไปช่วยวานิลลา ส่วนโฮปกับสโนวในตอนนี้ก็สนิทชิดเชื้อกันแล้ว เมื่อพร้อมแล้วซิดจะให้ลูกน้องขับยานเหาะพาเราไปส่งยังพาราเมเกีย ซึ่งเป็นฐานทัพกลางฟ้าที่ๆ พันโทจิลนาบาตและประมุขกาเรนธ์ ไดสรี่พำนักอยู่ ขณะเดียวกันวานิลลากับซัสซ์ก็ถูกจับไปยังที่แห่งนั้น ภายในห้องที่ขังวานิลลาไว้ วานิลลานึกถึงเหตุการณ์ในตอนท้ายแชปเตอร์ก่อน ซัสซ์เอาปืนจ่อหัวตัวเอง แล้วก็ยกปืนเลยเหนือศีรษะไปหน่อย แล้วค่อยลั่นไกดัง... โป้ง!! หลังจากนั้นซัสซ์ก็บ่นว่าที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดก็ไม่ใช่ความผิดของ วานิลลาคนเดียว การที่วานิลลาและฟางเข้าไปสู้กับฟัลซิคุจาตา จนเป็นเหตุให้แดจซ์โดนเลือกเป็นลูซิ ก็ต้องบอกว่าเป็นความผิดของฟัลซิด้วย ตอนแรกเขาก็โกรธแค้นและอยากจะฆ่าวานิลลา แต่ตอนนี้ก็คิดได้ว่าถึงฆ่าวานิลลาไปเค้าก็ไม่ได้อะไร แดจซ์ก็ไม่ได้ฟื้นกลับคืนมา ก็เลยเปลี่ยนใจแล้วละกัน ขณะที่กำลังอึ้งๆ กันอยู่ทหารก็แห่กันมาล้อมจับตัวทั้งสองเอาไว้ จิลนาบาตเข้ามาเอาตะบองข่มขู่ซัสซ์ และบอกให้ดีใจซะเถอะที่ลูกของแกได้กลายเป็นคริสตัล ลูกแกจะเป็นตัวอย่างของฮีโร่ผู้โชคร้ายที่คิดช่วยโคคูนไว้ ยังไงซะก็ดีกว่าการเป็นแค่ลูกชายที่น่าสมเพชของลูซิอย่างแก ไม่คิดเหรอว่าการที่เขากลายเป็นคริสตัล มันจะช่วยทำให้เขามีความสุขขึ้นเหรอ? ว่าแล้วซัสซ์ก็คำรามว๊ากออกมา เลยเจอเจ๊เอาตะบองทุบเส้นประสาทที่ต้นคอจนสลบ แล้วทหารก็โยนซัสซ์ที่สลบไปเข้าโลง แล้วก็จับวานิลลา กับแดจซ์ในร่างคริสตัลไป

 จบการย้อนอดีต กลับมาที่ปัจจุบัน ซัสซ์และวานิลลายังคงปลอดภัยดี ว่าแล้ววานิลลาก็นึกเรื่องย้อนอดีตอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องเมื่อ 13 วันก่อนเริ่มเกม... ภายในโบราณสถานของเมืองโบดัม ฟางกำลังนอนสลบอยู่ในโบราณสถานแห่งนั้น ข้างๆ ปรากฏเป็นคริสตัลที่มีรูปร่างเหมือนวานิลลา คริสตัลนั้นค่อยๆ กลายสภาพจนเป็นวานิลลาที่มีเนื้อหนังแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน ตอนแรกก็เปลือยล่อนจ้อนอยู่ แต่พระเจ้าก็ดันไม่ลืมเสกเสื้อผ้าให้เเธอใส่ในพริบตาด้วย แสดงว่าก่อนหน้านั้นวานิลลาเคยเป็นลูซิที่ทำหน้าที่สำเร็จจนกลายเป็นคริสตัล มาก่อน ทว่าในวันดังกล่าวฟัลซิอนิมามีเรื่องจะให้เธอกับฟางทำ ก็เลยคืนชีพวานิลลาให้ฟื้นจากสภาพคริสตัล พอวานิลลาฟื้นแล้วเธอก็ลุกไปปลุกฟาง เธอรู้ตัวดีว่าเธอเป็นเสมือนทาสรับใช้ของฟัลซิ คือมีชีวิตอยู่เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ แล้วก็กลับเป็นคริสตัลดังเดิม รอคอยวันเวลาที่ฟัลซิจะเรียกใช้และคืนชีพให้เธอใหม่ เดิมทีแล้วทั้งสองนั้นเป็นลูซิของแกรนพัลส์ แต่ว่าฟางพยายามขัดคำสั่งของฟัลซิ เธอจึงถูกลบความทรงจำ เมื่อฟางตื่นขึ้นมาเมื่อ 13 วันก่อน เธอจึงไม่มีความทรงจำก่อนหน้านั้นเหลืออยู่ ผิดกับวานิลลาที่รู้ตัวดีว่าเธอเคยทำหน้าที่เป็นลูซิมาหลายครั้งแล้ว และจริงๆ เธอก็เป็นลูซิมานานแล้ว แต่ดันทำเนียนว่ากลายเป็นลูซิพร้อมพวกไลท์นิ่ง

  ตัดกลับมายังเวลาปัจจุบัน ทางด้านไลท์นิ่งที่มาถึงยานพาราเมเกียแล้วก็วิ่งฝ่าไปตามทางเรื่อย ไล่ทุบไล่ตีทหารไปเรื่อยๆ สลับมาทางด้าของซัสซ์กับวานิลลาที่โดนขังอยู่ในห้องเดียวกัน พอเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในยาน ทหารก็เข้ามาในห้องขังเพื่อจะพาซัสซ์และวานิลลาไปกักตัวยังที่อื่นแทน แต่ซัสซ์ก็ขัดขืนและต่อยตีกับทหาร ส่วนวานิลลาก็แย่งปืนของทหารมาใช้ ทั้งสองหนีออกจากห้องขังไปจนเจอห้องที่เก็บอาวุธของพวกตน ทั้งสองก็หยิบอาวุธคืนมา แล้วก็วิ่งอาละวาดหาทางออกกัน ขณะที่ยานเหาะกำลังวุ่นวาย ประมุขกาเรนธ์ยังคงนิ่งเฉย แต่จิลมีท่าทีร้อนใจมากและรีบออกคำสั่งด่วน ในช่วงนี้เราต้องเล่นสลับระหว่างฝั่งซัสซ์กับฝั่งไลท์นิ่ง ก็พาวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไลท์นิ่งเจอ BOSS นกยักษ์คาราวินก้า พอปราบมันได้แล้วมันจะบินหนีไป ขณะเดียวกันกำแพงด้านข้างก็โดนระเบิดออก พอควันจางลงไลท์นิ่งก็เห็นซัสซ์กับวานิลลาที่อาละวาดจนกำแพงพังนั่นเอง

  จังหวะนี้เจ้าบอสตัวเดิมจะบินกลับมา เราต้องสู้กับมันอีกรอบนึง พอชนะแล้วฟางก็จะเข้าไปโอบวานิลลา เธอดีใจมากที่วานิลลาปลอดภัย จากนั้นเธอก็ถกกระโปรงของวานิลลาขึ้นมาดูว่าสัญลักษณ์ของวานิลลาเป็นยังไง บ้างแล้ว โฮปที่เห็นขาอ่อนของสาวน้อยเข้าให้ก็ร้องโอ๊ะโอ... แล้วก็ปิดตา หันไปมองทางอื่น... ซัสซ์เห็นภาพแบบนี้แล้วก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว เขาดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ฆ่าวานิลลาไป สโนวเห็นพิรุธก็หันไปถามซัสซ์ว่ามีอะไรเหรอ แต่ลุงแกก็บอกว่าเปล่าๆ ไม่มีอะไร เราตัดสินใจจะบุกไปยังห้องของประมุขกาเรนธ์ด้วยกัน วานิลลาก็ใช้อาวุธของเธอตรึงร่างมังกรสีม่วงที่บินไปมาแถวนั้นเอาไว้ แล้วฟางก็กระโดดขึ้นไปเสียบมังกรให้ร่วงลงมา เธอบอกให้ทุกคนขึ้นขี่มันได้เลย เราจะไปหากาเรนธ์ด้วยกัน พวกเราทั้งหมดก็ขี่มังกร หลบการโจมตีของศัตรู จนไปถึงบริเวณใกล้ห้องพำนัก พวกเราก็กระโดดออกจากมังกรไป มาโผล่ยังทางเดินยาวที่มีศัตรูมากมาย ให้ฝ่าเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงด้านในสุดที่เป็นห้องพำนัก

  ภายในห้องนั้นมีจิลกับกาเรนธ์รอต้อนรับเราอยู่ พอซัสซ์เจอจิลก็ควักปืนขึ้นมาทันที ส่วนจิลก็หยิบตะบองขึ้นมาหมายจะบู๊กับลูซิอย่างเราๆ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อกาเรนธ์ที่อยู่ด้านหลังบอกว่า ไม่ต้อง... แล้วเขาก็ยิงพลังเวทใส่จิลจนกระเด็นไป... ซัสซ์ตกใจมากที่ประมุขกาเรนธ์สามารถใช้เวทมนต์ได้ สโนวตะโกนบอกทันทีว่ามันไม่ใช่คนนี่หว่า... แล้วกาเรนธ์ไดสรี่ก็โชว์เมพด้วยการปล่อยพลังออกไปทั่วฟ้า ทำลายอาณาบริเวณรอบๆ ตัว สโนวเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งเข้าไปจะต่อยกาเรนธ์ แต่กลับติดบาร์เรียลึกลับทำให้กระเด็นกลับมา กาเรนธ์คำรามด่าเหล่าลูกน้องว่าเจ้าพวกทาสผู้โง่เขลาที่หวาดกลัวลูซิทั้ง หลายเอ้ยยย... ไลท์นิ่งเลยรีบชักดาบถามว่าตกลงแกเป็นใครกันแน่ เป็นลูซิงั้นเหรอ!? กาเรนธ์ตอบกลับว่าคิดว่าเขาเป็นลูซิงั้นรึ? ไม่ใช่หรอก!! ฉันคือฟัลซิต่างหาก!!! ฟัลซิบัลโทอันเดลุส! ราชาแห่งฟัลซิ!! ประมุขของรัฐบาลสวรรค์และของโคคูนยังไงล่ะ!!!! แล้วเราก็ต้องสู้กับ BOSS ราชาแห่งฟัลซิที่มีร่างกาย 5 ส่วนด้วยกัน ในการสู้กับบัลโทอันเดลุส.... เราต้องเตรียมการมาดีกว่าปกติ ขึ้นชื่อว่าราชาแห่งฟัลซิแล้ว ย่อมเชื่อได้ว่าพี่แกมีฝีมือเหนือชั้นกว่าบอสทั้งหมดที่เราเคยเจอมาหลายขุม ร่างกายส่วนหลักของมันจะมีพลังประมาณ 4 แสนกว่า เราต้องกำจัดส่วนย่อยๆ ทั้ง 4 ส่วนของมันก่อน และถึงจะสามารถทำเชนเพื่อเบรคส่วนหลักของมันได้ พอมันเหลือแต่ส่วนหลักแล้ว การโจมตีของมันจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ท่าเลเซอร์นรกแต่ละท่าของมันมีอานุภาพขนาดประทับตราวีซ่าให้เราไปทัวร์ยมโลก ได้ทันที ดังนั้นเราต้องใช้บัฟโพรเทคและเชลช่วยเอาไว้ตลอด ถ้าโพรเทคและเชลหายเมื่อไหร่ก็ให้รีบเติมทันที และควรหมั่นเติมพลังให้เต็มอยู่ตลอดเวลา มีจังหวะค่อยร่ายดีบัฟใส่มัน ขอให้จำไว้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการชนะมันคือหมั่นเติมพลังให้เต็ม และเติมบัฟไม่ให้ขาดอยู่เสมอ ตัวละครที่แนะนำคือไลท์นิ่ง ฟาง และโฮปครับ

  พอชนะมันแล้วคริสตัลเลียมจะอัพเลเวล พวกเราที่เห็นกาเรนธ์หายไปแล้วก็พากันพูดว่ามันตายแล้วเหรอ แต่กาเรนธ์ดันบินลงมาจากฟ้าแล้วบอกว่าราชาแห่งฟัลซิจะไปตายได้ยังไงเล่า! ไอ้ที่สู้ไปเมื่อกี้มันเป็นแค่น้ำจิ้ม ก็แค่การทดสอบฝีมือของพวกเราเท่านั้นแหละ แล้วมันก็เล่าความจริงให้ฟังว่า เค้าคือราชาฟัลซิของพัลส์ ที่ต้องการกำจัดฟัลซิออฟาน ซึ่งออฟานเป็นฟัลซิของพัลส์ที่ทรยศมาอยู่ฝั่งโคคูน ดังนั้นภารกิจที่เขาและอนิมาขอมอบให้ลูซิอย่างพวกเราก็คือ "การเรียกมนต์อสูรแร็คนาร็อคมากำจัดฟัลซิออฟาน" ที่เป็นพวกโคคูน แล้วทำลายโคคูนทิ้งซะ โอ้ววววววว..... แล้วเค้าก็ตอบข้อสงสัยให้ฟังว่าหน้าที่ที่ฟัลซิอนิมามอบให้เซร่าก็คือ การล่อคนมาเป็นลูซิ เพื่อที่จะได้ใช้คนพวกนั้นไปปราบออฟาน และถล่มโคคูนอีกทอดนึง.... การที่พวกเรา 5 คนแห่กันเข้าไปในโบราณสถาน ได้ทำให้ภารกิจของเซร่าเสร็จสมบูรณ์ เธอจึงได้กลายเป็นคริสตัล ในตอนนี้ถึงกาเรนธ์อยากให้พวกเราไปจัดการออฟาน (สงสัยตัวเองกระจอกเกิน เลยต้องใช้พวกเราแทน...) แต่จากการทดสอบฝีมือ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าฝีมือของเรายังไม่ถึงขั้น ดังนั้นพวกเจ้าจงไปเอาพลังใหม่มาซะ.... ว่าแล้วกาเรนธ์ก็เสกนกแถวนั้นที่บินผ่านให้กลายเป็นยานเหาะ ตัวเขาลอยหายเข้าไปในยานเหาะ และไลท์นิ่งก็เรียกให้ทุกคนตามเข้าไปก่อน พอยานเหาะออกบินเท่านั้นแหละ พันโทรอชที่ยังไม่ตายก็ขับยานเหาะมาไล่ยิงเรา เกิดเป็นการไล่ลากลางเวหา ถึงแม้จะโดนยิงไปเยอะ แต่ยานเรากลับไม่เป็นอะไรเลย พอเราสะบัดยานของรอชพ้น ทุกคนในยานก็มัวแต่มองด้านหลังกันว่ารอชตามมาทันรึเปล่า จนลืมมองด้านหน้า..... สุดท้ายยานก็ชนเข้ากับสิ่งปลูกสร้างอย่างหนึ่ง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น